โออีซีดีเตือนการค้าโลกชะลอ เติบโตตํ่าเท่าช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ

โออีซีดีเตือนการค้าโลกลดต่ำสู่ระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย พร้อมปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ลง อย่างไรก็ดี เชื่อว่ามาตรการจากจีนและประเทศต่างๆ จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นกลับคืนมาในปี 2559

องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ โออีซีดี ระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจฉบับล่าสุดว่า มูลค่าการค้าโลกจะขยายตัวเพียง 2% ในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับที่เคยเกิดขึ้นเพียง 5 ครั้งในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาและแต่ละครั้งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย คือในปี 2518, 2525-2526, 2544 และ 2552

“ที่ผ่านมาการค้าโลกเป็นสัญญาณบ่งชี้การเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราการขยายตัวของการค้าโลกในระดับที่เกิดขึ้นในปีนี้ในอดีตที่ผ่านมามีความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจโลกถดถอย” แคเธอรีน มานน์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโออีซีดีระบุในรายงาน

โออีซีดีชี้ว่า แนวโน้มการค้าและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวสะท้อนถึงความอ่อนแออย่างต่อเนื่องของตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะในจีน ซึ่งการเปลี่ยนผ่านจากรูปแบบการเติบโตที่มีพื้นฐานจากการลงทุนมาเป็นการขับเคลื่อนโดยการบริโภคส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลงอย่างมาก และอาจส่งผลให้บทบาทของจีนในเวทีการค้าโลกมีลดน้อยลง

พร้อมกันนี้ โออีซีดีได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2558 ลงเหลือ 2.9% จาก 3.0% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนกันยายน อย่างไรก็ดี โออีซีดีประเมินเศรษฐกิจในปีหน้าจะเติบโตได้สูงขึ้นเป็น 3.3% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน แม้ว่าอัตราการเติบโตจะต่ำกว่าเดิมที่ประมาณการไว้ 3.6% ขณะที่เศรษฐกิจในปี 2560 คาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ 3.6%

สำหรับประเทศในกลุ่มโออีซีดี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศพัฒนาแล้ว คาดว่าการเติบโตจะอยู่ที่ 2% ในปีนี้ 2.2% ในปี 2559 และ 2.3% ในปี 2560 โดยการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจสดใส โออีซีดีคาดว่าจะอยู่ที่ 2.4% ในปีนี้ 2.5% ในปีหน้า และ 2.4% ในปี 2560

ทั้งนี้ โออีซีดีคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับดอกเบี้ยในเดือนกันยายนแต่เฟดตัดสินใจคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใกล้เคียง 0% เช่นเดิม “การปรับดอกเบี้ยกลับสู่สภาวะปกติควรดำเนินการอย่างระมัดระวัง แต่ขณะเดียวกันจำเป็นต้องตระหนักถึงความเสี่ยงของการรอคอยนานเกินไป” โออีซีดีระบุในรายงาน โดยกล่าวว่า การชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกมาส่งผลให้มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนจำนวนมากและสร้างความผันผวน ซึ่งสร้างความยากลำบากให้กับผู้กำหนดนโยบายในตลาดเกิดใหม่

โออีซีดีปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจยูโรโซนลงเล็กน้อยเหลือ 1.5% ในปีนี้ และ 1.8% ในปีหน้า จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 1.6% และ 1.9% ตามลำดับ โดยในเวลานี้เชื่อว่าเศรษฐกิจเยอรมนีและฝรั่งเศสจะเติบโตได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม ส่วนเศรษฐกิจอิตาลีมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

ขณะเดียวกัน โออีซีดีระบุว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้รับผลกระทบอย่างมากจากการชะลอตัวของจีน ส่งผลให้การเติบโตในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1% และจะชะลอตัวลงเหลือ 0.5% ในปี 2560 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแผนการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในปีดังกล่าว โออีซีดีแนะนำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ไปอย่างต่อเนื่องจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นถึงระดับใกล้เคียงเป้าหมาย 2% แต่ขณะ เดียวกันชี้ว่าหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูงถึงเกินกว่า 200% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เป็นความเสี่ยงสำคัญ

สำหรับเศรษฐกิจจีน โออีซีดีปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตในปีนี้เล็กน้อยจาก 6.7% เป็น 6.8% แต่คงการเติบโตในปีหน้าไว้ที่ 6.5% เช่นเดิม และคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตลดลงเหลือ 6.2% ในปี 2560 ส่วนเศรษฐกิจของบราซิลและรัสเซียที่เผชิญกับภาวะถดถอย ในปีนี้คาดว่าจะยังคงหดตัวต่อเนื่องถึงปีหน้า

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,105 วันที่ 15 – 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

หมวดหมู่ของข่าว: 
แหล่งข่าว: 
ฐานเศรษฐกิจ

เนื้อหาข่าวเป็นการรวบรวมเพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น อันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ มิได้นำไปเพื่อการค้าแต่อย่างใด