ครม.เห็นชอบกรอบความร่วมมือรถไฟไทย-จีน2เส้นทาง วางเงื่อนไขเงินกู้"แบงก์จีน"ต้องไม่สูงกว่าเงินกู้ในปท.

พล.ต.สรรเสริญ แก้วเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติ ครม. ว่า ครม.มติเห็นชอบกรอบความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า ด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558-2565 โดยเห็นชอบความร่วมมือโครงการรถไฟขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด และเส้นทางแก่งคอย-กรุงเทพฯ ดำเนินการภายใต้รูปแบบอีพีซี (วิศวกรรม/การจัดซื้อจัดจ้าง/การก่อสร้าง โดยให้จัดตั้งเป็นบริษัทร่วมทุน (เอสพีวี)

สำหรับขอบเขตของโครงการร่วมกัน ได้แก่ จีนรับผิดชอบการศึกษาความเหมาะสมโครงการ รวมถึงการสำรวจและออกแบบ ฝ่ายไทยสนับสนุนการวิเคราะห์ผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ขั้นตอนการขอความเห็นชอบ การเวนคืนที่ดิน

ขณะที่ขอบเขตงานของโครงการ ด้านงานโยธา ฝ่ายจีนรับผิดชอบงานที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การขุดเจาะอุโมงค์ สะพาน ฝ่ายไทย เป็นผู้รับผิดชอบหลัก รวมถึงงานแหล่งจ่ายกำลังไฟฟ้า

ด้านงานวางระบบรถไฟ ฝ่ายจีน เป็นผู้รับผิดชอบหลัก เช่น งานวางรางระบบอาณัติสัญญาณ ระบบสื่อสารโทรคมนาคม การจ่ายกำลังไฟฟ้า การควบคุมการสั่งการ ฝ่ายไทย สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือจำเป็นสำหรับการก่อสร้าง

แหล่งที่มาของเงินทุน ประกอบด้วย งบประมาณของรัฐบาลไทย เงินกู้ภายในประเทศ และแหล่งเงินกู้อื่น โดยการระดมเงินทุนภายในประเทศและจะพิจารณาเงินกู้จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของจีน (CEXIM) รวมถึงเงินกู้เงื่อนไขอื่น หรือแหล่งเงินกู้สำหรับการดำเนินโครงการในขอบเขตงานของฝ่ายจีน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นชอบ ว่าหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขของเงินกู้ของธนาคาร CEXIM จะต้องดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับแหล่งเงินกู้อื่นของไทย (โดยเฉพาะแหล่งเงินกู้ภายในประเทศ)

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบร่วมกันเรื่องฝ่ายจีนจะเป็นผู้รับผิดชอบหลักด้านการเดินรถและซ่อมบำรุงในช่วง 3 ปีแรก หลังจาก 3 ปีแรกถึง 7 ปี ทั้งสองฝ่ายรับผิดชอบในสัดส่วนใกล้เคียงกัน และหลัง 7 ปี ไทยรับผิดชอบเอง โดยมีจีนเป็นที่ปรึกษา

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการรถไฟ ณ ศูนย์ควบคุมการเดินรถ (OCC) สถานีรถไฟเชียงรากน้อย จังหวัดปทุมธานี ในวันที่ 19 ธ.ค.58

หมวดหมู่ของข่าว: 
แหล่งข่าว: 
ประชาชาติธุรกิจ

เนื้อหาข่าวเป็นการรวบรวมเพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น อันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ มิได้นำไปเพื่อการค้าแต่อย่างใด